ลาเวนเดอร์บานเมื่อไหร่ในนิวซีแลนด์?
ลาเวนเดอร์เป็นพืชที่ได้รับความนิยมในนิวซีแลนด์เนื่องจากมีกลิ่นหอม ดอกสวยงาม และมีคุณสมบัติทางยา ลาเวนเดอร์ได้รับการปลูกในนิวซีแลนด์ตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษปี 1840 และปัจจุบันมีการนำมาใช้ในหลากหลายวิธี แต่คำถามที่พบบ่อยที่สุดข้อหนึ่งเกี่ยวกับลาเวนเดอร์ในนิวซีแลนด์คือ ‘จะบานเมื่อไหร่’ ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจคำตอบสำหรับคำถามนี้
ข้อกำหนดด้านสภาพอากาศ
สภาพอากาศของนิวซีแลนด์เป็นแบบอบอุ่น ซึ่งหมายความว่าโดยทั่วไปแล้วอากาศจะไม่หนาวหรือร้อนเกินไป สภาพอากาศแบบนี้เหมาะสำหรับลาเวนเดอร์ เนื่องจากช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดี ลาเวนเดอร์บานในนิวซีแลนด์ในช่วงฤดูร้อนที่อบอุ่นในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์ด้วย ตัวอย่างเช่น ลาเวนเดอร์อังกฤษ (Lavandula angustifolia) ต้องมีอุณหภูมิอย่างน้อย 19 องศาเซลเซียสจึงจะบานได้
การปลูกและดูแลลาเวนเดอร์
ลาเวนเดอร์เป็นพืชที่มีความทนทานสูงและสามารถเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมต่างๆ ในนิวซีแลนด์ ควรปลูกในพื้นที่ที่มีแสงแดดอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวันและมีดินระบายน้ำได้ดี ควรปลูกลาเวนเดอร์ห่างกัน เพราะถ้าปลูกใกล้กันเกินไป ลาเวนเดอร์อาจแย่งแสงแดดและน้ำได้
หากปลูกในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ควรรดน้ำและใส่ปุ๋ยในปริมาณที่พอเหมาะทุกๆ สองสามสัปดาห์ วิธีนี้จะช่วยให้ลาเวนเดอร์เจริญเติบโตและมีดอกบานเต็มที่ในช่วงฤดูร้อน!
การเก็บเกี่ยวลาเวนเดอร์
ดอกลาเวนเดอร์ในนิวซีแลนด์มักออกดอกในช่วงฤดูร้อน ซึ่งโดยปกติจะอยู่ในช่วงเดือนตุลาคมถึงมกราคม ขึ้นอยู่กับพันธุ์ เมื่อดอกบานเต็มที่แล้ว ก็พร้อมเก็บเกี่ยวได้ ควรเก็บเกี่ยวลาเวนเดอร์ในตอนเช้าเมื่อดอกยังมีน้ำค้างอยู่ เนื่องจากความชื้นจะช่วยให้ลำต้นคงรูปไว้ได้
ลาเวนเดอร์ที่เก็บเกี่ยวแล้วสามารถตากแห้งในที่เย็นและมืดได้เป็นเวลาหลายสัปดาห์ หลังจากนั้น ลาเวนเดอร์สามารถนำไปใช้ได้หลากหลายวิธี เช่น ชาลาเวนเดอร์ น้ำหอม ซองหอม หรือแม้แต่ในการปรุงอาหาร
ประโยชน์ของลาเวนเดอร์
นอกจากจะมีกลิ่นหอมและสวยงามแล้ว ลาเวนเดอร์ยังมีคุณสมบัติทางยาอีกมากมาย เป็นที่ทราบกันดีว่าลาเวนเดอร์ช่วยบรรเทาความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า และนอนไม่หลับได้เนื่องจากมีผลในการทำให้สงบ นอกจากนี้ลาเวนเดอร์ยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและสามารถใช้รักษาอาการระคายเคืองผิวหนังได้
น้ำมันลาเวนเดอร์ทำมาจากดอกไม้และสามารถใช้นวดเพื่อช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดความเครียด และส่งเสริมการนอนหลับ นอกจากนี้ยังสามารถใช้รักษาอาการปวดหัว คลื่นไส้ และแม้แต่แมลงกัดต่อยได้อีกด้วย!
การใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอม
น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์มักใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอม กลิ่นดอกไม้อันหอมหวานของลาเวนเดอร์เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำน้ำหอม น้ำมันลาเวนเดอร์ยังสามารถใช้ทำสบู่ โลชั่น ครีมทาตัว และแม้แต่เทียนหอมได้อีกด้วย ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับใช้ส่วนตัว รวมถึงเป็นของขวัญสำหรับเพื่อนและครอบครัว
นอกจากนี้ยังเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับงานแต่งงานหรือโอกาสพิเศษอื่นๆ เนื่องจากมีกลิ่นหอมสดชื่นและผ่อนคลาย
การใช้ในการทำอาหาร
ลาเวนเดอร์มีรสชาติที่ละเอียดอ่อน ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการนำไปผสมในอาหาร สามารถใช้ปรุงรสน้ำผึ้ง น้ำเชื่อมและแยม หรือทำน้ำตาลหรือเกลือปรุงรสได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ปรุงรสไอศกรีม ช็อกโกแลตร้อน หรือคัสตาร์ดได้อีกด้วย ลาเวนเดอร์ยังใช้เป็นเครื่องปรุงเครื่องดื่มได้อีกด้วย เพื่อเพิ่มกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของดอกไม้
กลิ่นหอมของลาเวนเดอร์
ลาเวนเดอร์ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในโลกของกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ กลิ่นหอมที่ผ่อนคลายของลาเวนเดอร์เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการนวดด้วยกลิ่นหอม และเชื่อว่าช่วยบรรเทาความเครียด นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในน้ำมันกลิ่นหอมและใช้ในเครื่องกระจายกลิ่นเพื่อช่วยให้หลับสบายหรือลดความวิตกกังวลได้
ลาเวนเดอร์ยังเชื่อกันว่าช่วยปรับปรุงอารมณ์และลดการอักเสบ ทำให้ลาเวนเดอร์เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ทุกข์ทรมานจากอาการปวดเรื้อรังหรือความเครียด
ลาเวนเดอร์ในแต่ละภูมิภาค
นิวซีแลนด์เป็นถิ่นกำเนิดของลาเวนเดอร์หลายสายพันธุ์ โดยสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Lavandula angustifolia (ลาเวนเดอร์อังกฤษ) พันธุ์นี้มักปลูกเพื่อใช้เป็นน้ำมันและใช้ในหลากหลายจุดประสงค์ เช่น การทำอาหาร งานฝีมือ และกลิ่นหอม นอกจากนี้ยังมีสายพันธุ์อื่นๆ เช่น Lavandula stoechas (ลาเวนเดอร์ฝรั่งเศส) และ Lavandula multifida (ลาเวนเดอร์สเปน)
นิวซีแลนด์ยังมี Lavandula puncini (ลาเวนเดอร์คาปิติ) ซึ่งเป็นพันธุ์พื้นเมืองของตัวเองอีกด้วย ลาเวนเดอร์คาปิติมีช่วงเวลาการบานที่แตกต่างกันเล็กน้อยและสามารถระบุได้ง่ายเนื่องจากมีดอกสีชมพูที่เป็นเอกลักษณ์ บทสรุป
ลาเวนเดอร์เป็นพืชที่ได้รับความนิยมในนิวซีแลนด์เนื่องจากมีกลิ่นหอมหวานและมีคุณสมบัติในการบำบัด ลาเวนเดอร์จะบานในช่วงฤดูร้อนที่อบอุ่นในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม และควรปลูกในดินที่มีการระบายน้ำที่ดี โดยมีแสงแดดอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
ลาเวนเดอร์ที่เก็บเกี่ยวแล้วสามารถนำไปใช้ได้หลากหลายวิธี เช่น การปรุงอาหาร การทำสบู่และเครื่องสำอาง เครื่องหอม หรือแม้กระทั่งในอะโรมาเทอราพี ลาเวนเดอร์มีหลายประเภทในนิวซีแลนด์ ซึ่งหมายความว่ามีพันธุ์ไม้ที่เหมาะกับความต้องการของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นยา การทำอาหาร หรือเพียงแค่มีกลิ่นหอม